ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ในชนบทแห่งหนึ่ง
มีชาวนาคนหนึ่งเป็นคนน่ารักและมีนิสัยโอบอ้อมอารี วันหนึ่งในขณะที่เขาเดินกลับบ้าน
เขาเดินสะดุดก้อนหินล้มลง เขาคว้าเศษฟางติดมือมาหนึ่งเส้น
เขาเดินทางต่อมาและพบพ่อค้าเร่คนหนึ่ง หน้าตาของพ่อค้าดูอิดโรยด้วยความกระหายน้ำจนเกือบจะเป็นลม
เขารู้สึกสงสารพ่อค้ามาก จึงมอบส้มทั้งสามใบให้พ่อค้าได้รับประทานเพื่อดับความกระหายน้ำ
พ่อค้ารู้สึกประทับใจในน้ำใจของชาวนามากจึงได้มอบผ้าให้กับเขาสามผืน
เมื่อใกล้จะถึงบ้านเขาพบหญิงสาวแปลกหน้า แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่มีรอยปะไปทั่วตัว
เขารู้สึกสงสารหญิงคนนั้นจึงมอบผ้าสามผืนที่เขาได้มาแก่หญิงผู้ยากจนคนนั้น
เขาไม่ทราบว่าอันที่จริงแล้วหญิงสาวคนนั้นก็คือเจ้าหญิงที่ปลอมตัวมา เพื่อสืบหาคนที่มีน้ำใจดี
จะได้ประทานรางวัลให้กับคน ๆ นั้น
เจ้าหญิงได้ประทานเงินทองให้กับเขามากมาย
ชายชาวนานำเงินนั้นมาซื้อที่ดินได้หลายแปลง และด้วยความใจกว้าง
เขาแบ่งที่ดินให้กับทุก ๆ คนในหมู่บ้านได้ทำมาหากินกันด้วยความขยัน
มันจึงเกิดผลผลิตมากมาย หมู่บ้านนี้จึงกลายเป็นหมู่บ้านที่ร่ำรวย และจุดเริ่มต้นแห่งความร่ำรวยนี้ก็มาจากฟางเส้นเดียว
ข้อคิด
: หลาย ๆ ครั้งความดีเล็ก ๆ น้อย ๆ
ก็เป็นบ่อเกิดแห่งคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ ความมีน้ำใจ ความเห็นใจที่ดูเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนหนึ่ง
ก็อาจจะให้ผลดีที่เราคิดไม่ถึงเช่นกัน คำพูดที่สร้างสรรค์เพียงคำเดียวอาจจะเสริมสร้างสังคมและให้กำลังใจแก่คนที่อยู่รอบข้างได้มากมาย
และเช่นเดียวกันชีวิตอันงดงามของคนบางคนก็อาจถูกทำลายอย่างไม่มีชิ้นดีด้วยคำพูดหรือการกระทำ
ที่คนที่พูดหรือทำนั้นอาจจะเห็นว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย
แหล่งที่มา catholic.egat.com
No comments:
Post a Comment