Saturday, August 6, 2011

กบฟุ้งซ่าน



กบ ตัวหนึ่งนั่งอยู่ข้างกำแพงวัดทุกเช้ามันเฝ้าดูพระออกบิณฑบาตตั้งแต่เช้ามืด พอพระกลับมาถึงวัดเพื่อฉันอาหารเช้า…กบตัวเดิมนึกในใจ อยากเกิดเป็น พระ มีคนถวายอาหารให้กินทุกวันเมื่อพระฉันเสร็จก็นำอาหาร ที่เหลือมากมายนั้นไปให้เด็กวัดกินต่อ


แล้วเด็กวัดก็กินกันอย่างเอร็ดอร่อยตอนนี้ กบเปลี่ยนใจ อยากเกิดเป็น เด็กวัดแล้ว สบายกว่าพระ หลายคนตื่นสายได้ และไม่ต้องออกตามพระไปบิณฑบาตก็ได้ เมื่อเด็กวัดกินกันเสร็จก็โกยอาหารที่เหลือทั้งหมดให ้หมาวัดไปกินแล้ว จากนั้นก็ช่วยกันล้างจาน   


ถึงตอนนี้ เจ้ากบก็เปลี่ยนใจ… อยากเกิดเป็น หมาวัด แล้ว  เพราะ ไม่ต้องล้างจานเหมือนเด็กวัด พอหมาวัดกินอาหารเสร็จก็แยกย้ายไปทำหน้าที่เฝ้าบริเวณ วัดคอยเห่าคนแปลกหน้า 


ฝูงแมลงวันก็บินมาตอม แทะเล็มอาหารต่อจากหมาวัด กบเปลี่ยนใจอีกแล้ว อยากเกิดเป็น แมลงวัน สบายที่สุด ไม่ต้องทำอะไรเลย หนำซ้ำ ยังมีกองอาหารให้กินไม่มีหมดด้วย
 
ขณะที่เจ้ากบฟุ้งซ่านกำลังคิดเพลินๆ อยู่นั้นพอดีหันมาเห็น แมลงวัน บินมาใกล้ๆ จึงใช้ลิ้นตวัดเอาแมลงวันเข้าปากตัวเองโดยสัญชาตญาณ ถึงตอนนี้ ….กบฟุ้งซ่านจึงบรรลุธรรมฉับพลัน!! คิดได้ว่า เอ้อ! เป็นตัวของเราเองนี้แหละ ดีที่สุดเลย



แหล่งที่มา :  http://kmblog.rmutp.ac.th



ความคิดเห็น :  ใช่แล้ว เป็นตัวของเราเองดีที่สุดแล้ว .. และก้อพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยุ่และเป็นอยุ่ แค่นี้ก้อสุขใจเกินพอแล้ว...

Saturday, June 25, 2011

คนจนที่แท้จริง

ในสมัยโบราณ ที่ประเทศอินเดีย มหาเศรษฐีคนหนึ่งมีศรัืทธาอยากจะออกบวช อุทิศกายใจเพื่อการปฎิบัติภาวนา แต่เขาจำเป็นต้องจัดการเรื่องทรัพย์สมบัติที่มีอยู่มากมายให้เรียบร้อยเสีย ก่อน จึงจะออกบวชได้อย่างหมดห่วง ปัญหาอยู่ที่ว่าเขาไม่มีครอบครัว พี่น้องหรือลูกหลานเลย ฉะนั้นใครจะเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดที่เขาสมควรจะยกสมบัติให้ เขาคิดๆๆ จนหาคำตอบได้ว่า เขาจะยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้แ่ก่คนที่จนที่สุดในอินเดีย แต่บุคคลนั้นจะเป็นใครเล่า

ท่านเศรษฐีประกาศกับเพื่อนฝูงว่า เขาจะออกธุดงค์สักหนึ่งปี ไปให้ทั่วอินเดีย เพื่อค้นหาคนที่จนที่สุด โดยไปแบบคนธรรมดา ไม่ให้ใครรู้ว่าเขาเป็นมหาเศรษฐี ว่าแล้วเขาก็ออกเดินทางและหายตัวไปจากวงการเศรษฐีเป็นเวลาหนึ่งปีเต็ม เมื่อเขากลับมา เพื่อนๆ ถามด้วยความตื่นเต้นว่า ใครคือคนยากจนที่สุดในอินเดียที่จะโชคดีได้รับทรัพย์สมบัติจากเขา คำตอบของท่านเศรษฐีทำเอาเืพื่อนๆ ทุกคนอ้าปากหวอด้วยความงงงวยเป็นที่สุดว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไร...


"ระหว่างเดินทางผมพบผุ้คนมากมาย ผมพยายามหาคนที่จนที่สุด ผมพบชาวบ้านในกระต๊อบเล็กๆ กลางทุ่งนา เขาเชิญผมไปพักในบ้าน ผมเห็นเขาอยู่อย่างพอเพียง แม้จะจนเงินทอง แต่เขาก็พออยู่พอกิน มีเมตตาต่อกัน เคารพและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน พวกเขาอยู่กันอย่างมีความสุข ผมเลยต้องสรุปว่า คนอย่างนี้ไม่จนแน่"


"ทีนี้ผมก็คิดต่อ จะเอาอะไรเป็นเครื่องตัดสินความจน พิจารณาแล้วผมเห็นว่าคนที่รู้สึกว่าขาดที่สุด คนที่ไม่พอใจกับสิ่งที่ตนมีอยู่ น่าจะถือได้ว่าคนชนิดนั้นเป็นคนที่จน จากนั้นผมก็คิดถึงมหาราชาของเรา ท่านเรียกเก็บภาษีพวกเราเพิ่มขึ้นทุกปีไม่เคยพอซักที แล้วยังชอบทำสงครามขยายอาณาจักรอยู่ตลอดเวลา ผมจึงสรุปว่า มหาราชาเป็นผู้ที่มีเท่าไรก็ไม่รู้จัดพอ ฉะนั้นท่านนั่นแหละเป็นบุคคลที่จนที่สุดในชมพูทวีป ผมจึงตัดสินใจยกทรัพย์สมบัติทั้งหมดให้ท่าน"


แหล่งข้อมูลอ้างอิง :  หนังสือ "เรื่องท่านเล่า"
ผู้แต่ง                  :  คุณศรีวรา อิสสระ


โดย                    :  มิสนงลักษณ์ สีนิลแท้
หนังสือ                :  อัสสัมชัญสาส์น
                             ศตวรรษที่ 2 ปีที่ 26 ฉบับที่ 144
                             เืดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน พ.ศ. 2554

Thursday, March 3, 2011

ดอกบัวน้อย

มีเด็กคนหนึ่งชื่อว่าเด็กหญิงดอกบัว ชื่อของเธอตั้งตามชื่อดอกไม้ที่สวยงามชนิดหนึ่ง แต่ดอกบัวไม่เคยรู้สึกเลยว่าเธอนั้นสวยงาม ดอกบัวอยากที่จะสวยเหมือนชื่อของเธออย่างยิ่ง เธอตัวโตและสูงสง่า เธออยากมีแก้มสีแดงเปล่งปลั่งและอยากให้คนรอบข้างชื่นชมในตัวเธอ

แต่ในความเป็นจริง ดอกบัวสกปรกมอมแมมไปด้วยดินและโคลน เด็กบางคนเรียกเธอว่า เจ้าผอมแห้งแรงน้อย ท้องเธอปวดเพราะความหิว ใจของเธอนั้นแสนจะหนักอึ้ง

แต่แล้ววันหนึ่ง ดอกบัวได้ยินว่ามีคนที่อยู่แสนไกล ต้องการให้การอุปการะเธอ ดอกบัวไม่รู้จริงๆ ว่า การอุปการะหมายถึงอะไร

หลายเดือนต่อมา ดอกบัวพบว่าเธอมีอาหารรับประทานอิ่มท้อง เธอมีน้ำสะอาดให้ดื่มให้ใช่อย่างยิ่ง

เธอมีชุดนักเรียนใหม่ มีรองเท้าใหม่ และมีสมุดหนังสือให้เธอใช้ เวลาไปโรงเรน

หลายปีผ่านไป ดอกบัวตั้งใจเรียนเป็นอย่างดี จนกระทั่งเธอเรียนจบการศึกษา

ในโอกาสพิเศษนี้ คุณครูประจำชั้น จึงได้ถ่ายรูปนักเรียนทุกคนไว้

ดอกบัวยืนอยู่แถวด้านหลัง ในรูปเธอเติบโตเป็นเด็กสาวแก้มแดง ที่มีสุขภาพดีและมีความสุข

มีดวงตาที่สดใส และใจที่เบาสบาย

ความฝันของดอกบัว ... เป็นจริงแล้ว

แหล่งข้อมูลอ้างอิง :   มูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน ซี.ซี. ในประเทศไทย
                                   ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพรเทพรัตนราชสดาฯ