Friday, October 5, 2012

นก วัวและแมว


เช้าวันนั้นอากาศหนาวเย็นสุดๆ เสียงลมพัดอู้ข้ามท้องทุ่งโล่ง พัดเอาเปลือกและใบข้าวโพดหมุนเคว้งคว้างไปมา ในขณะที่ลมกระโชกเสียงหวีดดังและกระแทกประตูโรงนาดัง..กึงกัง..กึงกัง..  นกน้อยตัวหนึ่งต่อสู้อย่างสิ้นหวังที่จะบินข้ามทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์และตกลงใกล้ๆโรงนานั้น

ตัวนกน้อยนั้น..เปียกปอนสกปรก เพื่อจะข้ามทุ่งหญ้าไปยังรังของมันให้ได้ มันได้พยายามบินขึ้นและตกลงมาแล้วหลายครั้ง  นกน้อยเหน็บหนาวและสิ้นเรี่ยวแรง..รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดใจตาย

วัวตัวหนึ่งอยู่ใกล้ๆ จ้องมองที่นกน้อยและเคลื่อนตัวหันก้นของมันมาทางนก ในขณะที่ปากเคี้ยวเอื้อง..หยับ..หยับ..อยู่   ในขณะที่นกกำลังหวาดกลัวสุดขีด กลัวว่าจะถูกวัวเหยียบ  วัวก็ถ่ายมูลก้อนเบ้อเริ่มลงบนตัวนก
ในตอนแรก นกน้อยสุดจะ เซ็งหดหู่และสิ้นหวัง  มันโกรธแค้นวัวเป็นที่สุด..ที่ทำเหมือน..ซ้ำเติมให้ยิ่งทุกข์ยาก  มันพยายามต่อสู้ดิ้นรนที่จะให้หลุดออกมาจากกองขี้วัว  แต่เพียงครู่เดียวก็เริ่มรู้สึกว่า มันไม่รู้สึกหนาวอีกต่อไปแล้ว  ขี้ที่เพิ่งออกจากตัววัว มีความร้อนพอจะทำให้ร่างกายของเจ้านกน้อยที่น่าสงสารอบอุ่นขึ้น
 
นกน้อย ที่คิดว่าตัวเองกำลังจะตายไปแล้วด้วยสภาพอากาศอันเลวร้าย กำลังจะรอดชีวิตด้วยขี้วัวโสโครกที่ไม่ทราบเลยว่าตกลงบนตัวของมันด้วยเจตนาของวัวหรือไม่?

เจ้านกรู้สึกเป็นสุขเหลือเกิน เหมือนตายแล้วเกิดใหม่  เมื่อกระแสลมสงบลง มันจึงโผล่หัวออกมาจากกองขี้วัว  และเริ่มต้นร้องเพลงด้วยความลิงโลดใจ


โชคร้ายที่แมวในโรงนานั้นได้ยินเสียงเพลง  จึงคาบเอานกออกมาจากกองขี้วัวและกินเสีย
 
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ผู้ที่นำความยากลำบากมาให้อาจไม่ใช่ เพื่อทำร้ายเรา ส่วนผู้ที่นำเราออกจาก ความยากลำบากก็อาจไม่ใช่ เพื่อที่จะช่วยเรา และเมื่อได้ลิ้มรส ความสุข ก็อย่าด่วนลิงโลดใจจนเกินไป

แหล่งข้อมูลอ้างอิง   www.kwamru.com



No comments:

Post a Comment