Saturday, February 2, 2013

ดอกเข็มหลงผิด


          ณ สวนดอกไม้ที่สวยงามมีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่ง ตลอดทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมความงามของสวนนี้ไม่เคยขาด เป็นเพราะเจ้าของสวนและคนทำสวนเอาใจใส่ดูแลจัดแต่งดอกไม้, ต้นไม้ ด้วยความรัก ทำให้สดชื่นสวยงามอยู่เสมอ มีทั้งดอกกุหลาบ พิทูเนีย รักเร่ ทิวลิป ดอกไม้แต่ละแปลงก็ทำหน้าที่เป็นอย่างดีบานสลับสีเหลือง แดง ม่วง ขาว สวยงามบาดตา

          อยู่มาวันหนึ่งดอกเข็มที่ถูกปลูกไว้เป็นแนวริมทางเดินในสวนก็เกิดน้อยใจขึ้นมา เพราะเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามาในสวน ก็พากันไปถ่ายรูปกับดอกไม้สวย ๆ ไม่เคยมีใครอยากมาถ่ายรูปกับพวกตนบ้างเลย

          ดอกเข็มดอกหนึ่งพูดขึ้นว่า
"นี่พวกเราดูซิ ที่แปลงกุหลาบนั่นมีคนเข้าคิวรอถ่ายรูปอีกแล้ว ทำไมไม่มีใครมาสนใจเราบ้างเลย เราเป็นดอกไม้ไร้คุณค่าจริง ๆ"

          ดอกเข็มอีกดอกเสริมขึ้น "ใช่ ๆ ชั้นก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน ขนาดชูดอกก็แล้วพยายามโบกไหวก็แล้ว ไม่มีใครมาถ่ายรูปพวกเราเลย น่าน้อยใจจริง ๆ" แล้วพวกดอกเข็มก็พากันร้องไห้ด้วยความน้อยใจและอิจฉาดอกไม้อื่น ๆ ดอกไม้หลงผิด

          ดอกเข็มอีกดอกพูดว่า
ชั้นคิดแผนการออกแล้ว เราขอให้พวกแมลงช่วยดีกว่า แล้วเหล่าดอกเข็มในแปลงก็ตกลงกับฝูงแมลงว่าขอให้แมลงไปวางไข่ไว้ที่ดอกไม้ อื่น ๆ ให้ทั่วสวน ถ้าคุณแมลงตกลงพวกเราดอกเข็มจะให้น้ำหวานแสนอร่อยเป็นรางวัล

          พวกแมลงก็ตกลงรับงานนี้เพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าน้ำหวานจากดอกเข็มนั้นอร่อยมาก ๆ พวกแมลงพากันไปวางไข่ไว้ที่ดอกไม้ต่าง ๆ ทั่วทั้งสวน ผ่านไปเพียง 7 วันลูกหนอนเล็ก ๆ ก็ฟักออกจากไข่พร้อมกันดอกไม้ทุกดอกในสวนต่างมีหนอน เหล่าหนอนก็กัดกินดอกไม้ด้วยความหิวและโตขึ้นอย่างรวดเร็ว สวนดอกไม้ที่เคยสวยงามกลับมีแต่ดอกไม้กลีบแหว่ง ใบขาด บางต้นก็ถึงกับตายไปเลย เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ก็ไม่มีนักท่องเที่ยวมาชมสวนอีกเลย เจ้าของสวนจึงขาดรายได้นานเข้าก็ต้องปลดคนทำสวนออก และปิดกิจการลงในที่สุด

          เมื่อประตูของสวนปิดลงอย่างถาวร ไม่มีดอกไม้สวย ๆ บานอยู่ในสวนอีกต่อไป เหลือเพียงดอกเข็มเท่านั้นไม่มีคู่แข่งอีกแล้ว แต่ก็ไม่มีใครมาเที่ยวชมสวนแล้วเช่นกัน ถึงตอนนี้ดอกเข็มทั้งหลายก็เข้าใจแล้วว่าการที่ตนวางแผนทำร้ายคนอื่นนั้น มันย่อมส่งผลร้ายมาถึงตัวเองด้วย

          นิทานเรื่องนี้ ตรงกับสุภาษิตไทยที่ว่า "ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว" ดังนั้นเด็กดีต้องไม่คิดร้ายต่อผู้อื่นนะคะ



แหล่งที่มา  กระปุกดอทคอม / KARN.TV

No comments:

Post a Comment