ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเดินทางไปต่างจังหวัด ได้ฝากเงินไว้ที่ตาเฒ่าผู้หนึ่ง เป็นจำนวนเงิน 1,000 บาท เมื่อกลับมาจากต่างจัีงหวัดแล้ว เขาไปขอรับเงินคืน แต่ตาเฒ่าปฏิเสธเรื่องเงินฝาก บอกว่า "เจ้าไม่ได้ฝากอะไรไว้ที่ข้าเลย"
เด็กหนุ่มได้ไปขอพึ่งความยุติธรรมจากศาล ผู้พิพากษาเรียกตัวผู้เฒ่าไปที่ศาล "เด็กหนุ่มคนนี้ฝากเงินไว้ที่ท่านใช่ไหม?" ตาเฒ่ายืนกราน "ไม่ได้ฝากไว้ ไม่มีเลย" ผู้พิพาษาจึงถามเด็กหนุ่มว่า "เจ้ามีพยานไหม?" เด็กหนุ่มตอบ "ไม่มีครับ" ผู้พิพากษาถามเด็กหนุ่มต่อไป "ขณะที่เจ้าเอาเงินไปฝากไว้กับตาเฒ่านั้น เจ้าสองคนอยู่ที่ไหน?" "เรานั่งอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ครับ" "ทำไมเจ้าบอกว่าไม่มีพยานล่ะ?"...."ต้นไม้ใหญ่เป็นพยานให้เจ้าได้" ผู้พิพากษาพูด
แล้วผู้พิพากษากล่าวเสียงดังว่า "เจ้าจงไปที่ต้นไม้ใหญ่บอกว่าข้าเรียกตัวมาที่ศาล" ตาเฒ่ายิ้มชอบใจ แต่เด็กหนุ่มกลับลังเลใจ กล่าวว่า "ผมกลัวว่าต้นไม้ใหญ่จะไม่ยอมเชื่อหมายศาลของใต้เท้ามากกว่า" ผู้พิพากษาบอกให้วางใจ "เจ้านำแหวน ซึ่งเป็นตราของข้าไปให้ต้นไม้ดู แล้วบอกมันว่าดูซิ นี่เป็นตราของผู้พิพากษานะ ต้นไม้ก็จะต้องมาแน่นอน"
เด็กหนุ่มนำตราของผู้พิพากษาเดินทางไปไ้ด้สักครู่ใหญ่ ผู้พิพากษาก็ถามตาเฒ่าว่า "นี่ ท่านลองกะดูทีซิว่า เจ้าเด็กหนุ่มไปถึงต้นไม้ใหญ่แล้วหรือยัง?" ตาเฒ่าตอบ "อ้อ...คงจะถึงแล้ว"
เด็กหนุ่มเรียกตัวต้นไม้เป็นพยานไม่ได้ผล จึงกลับไปบอกผู้พิพากษาตามความจริง "ผมเอาตราของท่านให้มันดู แต่มันไม่สนใจอะไรเลยครับท่าน" ผู้พิพากษาตอบ "ต้นไม้ใหญ่ต้นนั้นได้มาแล้วและได้ให้ปากคำต่อหน้าบัลลังก์เรียบร้อยแล้ว"
ตาเฒ่ารู้สึกตื่นเต้นในขณะนั้น "ใต้เท้าว่าอะไรนะ? ต้นไม้ต้นนั้นไม่ได้มาเลย" "เป็นความจริง มันไม่ได้มาเลย" ผู้พิพากษาประกาศ แล้วกล่าวต่อไปว่า "เมื่อกี้นี้ เราถามท่าน เจ้าหนุ่มไปถึงต้นไม้ใหญ่แล้วหรือยัง?" ท่านก็บอกเราว่า "คงจะถึงแล้ว ถ้าท่านไม่ได้รับเงินจากเจ้าหนุ่มที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ท่านจะต้องถามเราว่า ต้นไม้ต้นไหน? ไกลจากที่นี่มากไหม? คำตอบของท่านเมื่อกี้นี้ จึงพิสูจน์ได้ว่า เด็กหนุ่มพูดความจริง"....ผู้พิพากษาจึงตัดสินให้คืนเงินแก่เด็กหนุ่ม และลงโทษตาเฒ่าอีกด้วย
นิทานจบแล้วค่ะ เห็นไหมคะน้องๆ ว่าการโกงคนอื่นเป็นสิ่งไม่ดี อย่าคิดว่าทำแล้วจะไม่มีใครจับได้นะคะ ถึงไม่มีใครจับได้เราก็ย่อมรู้แก่ใจตัวเองอยู่ดีว่าสิ่งที่เราทำอยู่นั้นถูกหรือเปล่า
ผู้แต่ง : พี่อ้อย
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : หนังสืออุดมศานต์
ปีที่ 86 เดือน พฤศจิกายน 2549/2006
No comments:
Post a Comment