ครั้งหนึ่งมีชาย 2 คนชื่อ จอม กับ จิต เป็นเพื่อนกัน จอมมีเรืออยู่ลำหนึ่ง วันหนึ่งเกิดน้ำท่วม จิตจึงขอนั่งไปกับเรือของจอม โดยจิตนั่งอยู่หัวเรือ ส่วนจอมนั่งอยู่ท้ายเรือ และเป็นคนพายเรือไป
เมื่อพายเรือไปได้สักพักหนึ่ง เรือก็รี่ตรงไปจะชนต้นไม้ จิตตกใจกลัวก็บอกว่า "ซ้ายหน่อยๆ" จอมก็พายงัดเล็กน้อย เรือก็ไม่ชนต้นไม้ พายรอดไปได้
เมื่อพายต่อไปเรือก็ตรงรี่จะไปชนบ้าน จิตเห็นดังนั้นตกใจ ร้องบอกว่า "ขวาหน่อยๆ" จอมก็พายงัดเล็กน้อย เรือก็รอดไปได้โดยไม่ชนบ้าน
จิตเลยเกิดสงสัยจึงถามจอมว่า "นี่เรือทำด้วยอะไรนะถึงว่าง่ายอย่างนี้" "ทำด้วยไม้ตะเคียนนะซิ" จอมตอบ
เมื่อจิตกลับถึงบ้านก็บอกกับครอบครัวว่า "นี่ไม้ตะเคียนนี่ว่าง่ายจัง ฉันอยากจะขุดเรือจากไม้ตะเคียนสักลำ ที่ข้างบ้านเรามีไม้ตะเคียนอยู่ต้นหนึ่ง เดี๋ยวฉันจะไปโค่นมาขุดทำเรือนะ"
คนในครอบครัวก็บอกว่า "มันจะทับบ้านพังนะ" "ไม่ทับหรอก ไม้ตะเคียนมันว่าง่ายจะตาย" จิตรีบอธิบายสรรพคุณของต้นตะเคียน
ว่าแล้วจิตก็คว้าขวานไปฟันต้นตะเคียนทันที ฟันไปๆ จวนจะขาด มันก็ค่อยๆ เอนลงจะทับบ้าน จิตก็ยืนโบกมือร้องตะโกนไปว่า "ซ้ายหน่อยๆ" ต้นตะเคียนก็ล้มโครมลงทับหลังคาบ้านพังไปเรียบร้อย จิตก็บ่นในใจว่า "เอ๊ะ! ต้นตะเคียนบ้านเรานี่ มันทำไมจึงดื้อจัง ไม่เหมือนต้นตะเคียนของจอมเลย ว่าง่ายแท้ๆ"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การเข้าใจอะไรที่ไม่ถูกต้องหรือการหลงเชื่อในสิ่งที่ผิดๆ จะนำมาซึ่งความหายนะ ฉะนั้น ก่อนที่จะเชื่อสิ่งใด ควรพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบ โดยใช้เหตุผล
ผู้แต่ง : พี่อ้อย
แหล่งข้อมูลที่มา : หนังสืออุดมศานต์
ปีที่ 87 เดือน มกราคม 2550/2007
No comments:
Post a Comment