Sunday, April 26, 2015

สุนัขจิ้งจอกในดงหนาม






สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งชอบไปขโมยลูกไก่เเละเเม่ไก่ของชาวบ้านมากินเป็นประจำ วันหนึ่งพวกชาวบ้านให้พรานดักซุ่มรอเล่นงานสุนัขจิ้งจอก เเต่สุนัขจิ้งจอกเห็นเข้าก่อนจึงรีบวิ่งหนีออกจากหมู่บ้านโดยเร็ว 

พรานยังคงไล่ล่าตามมาติดๆ สุนัขจิ้งจอกจึงกระโดดเข้าไปซ่อนตัวในดงหนามที่ชายป่า หนามอันเเหลมคมทิ่มตำสุนัขจิ้งจอกจนเจ็บปวดไปทั้งตัว 

มันตัดพ้อดงหนามว่า "ทำไมต้องทำร้ายเราด้วย ในเมื่อเราไม่เคยทำร้ายเจ้า" 

ดงหนามจึงตอบว่า ลูกไก่เเละเเม่ไก่ก็ไม่เคยทำร้ายสุนัขจิ้งจอกเช่นกัน เเละการที่กระโดดเข้ามาก็ทำให้กิ่งก้านของดงหนามหักไปไม่น้อย 

 
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า 

ก่อนจะตำหนิว่าใคร ควรย้อนดูตนเสียก่อนว่าเคยทำผิดเช่นนั้นมาก่อนหรือไม่


ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

Monday, April 20, 2015

ต้นโอ๊กผู้ยิ่งใหญ่




ในเย็นวันหนึ่ง มีพายุใหญ่พัดกระหน่ำจนต้นอ้อนั้นพากันเอนลู่ไปตามกระเเสลม 

ต้นโอ๊กใหญ่เห็นเช่นนั้นจึงถามต้นอ้อว่า "ไฉนเจ้าจึงไม่ยืนนิ่งต้านเเรงลมเล่า เจ้าช่างอ่อนแอเหลือเกิน" 

ต้นอ้อตอบอย่างถ่อมตนว่า "ข้านั้นเป็นต้นไม้เล็กๆ ไม่มีเเรงกำลังมากเช่นท่าน ลมพัดไปทางไหนก็ต้องเอนไปทางนั้น" 
 
ต้นโอ๊กได้ฟังก็หัวเราะดังลั่นอย่างภาคภูมิใจในความยิ่งใหญ่ของตน 

เเต่ทว่าคืนนั้น พายุยังคงโหมกระหน่ำรุนเเรงจนต้นโอ๊กหักโค่นลง เหลือเเต่ต้นอ้อที่ยังมีชีวิตอยู่ เเละเมื่อพายุสงบลง ต้นอ้อก็หยัดยืนตรงได้อีกครั้ง 


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า 

โอนอ่อนย่อมอยู่ได้นานกว่าเเข็งกระด้าง 


ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

Thursday, April 9, 2015

วัวสามสหาย



ครั้งหนึ่งยังมีวัวสามตัวได้ตกลงสัญญาเป็นเพื่อนตายต่อกัน ดังนั้นวัวทั้งสามจึงมักไปไหนด้วยกันเสมอเเละคอยระวังภัยให้เเก่กันด้วย  


สิงโตที่จ้องหาทางจะกินวัวอยู่ จึงเเอบไปกระซิบกับวัวตัวที่หนึ่งว่า วัวตัวที่สองกับที่สามนั้นนินทาด่าว่าลับหลังวัวตัวที่หนึ่ง เเล้วสิงโตก็ไปยุเเหย่ตัวที่สองว่า วัวตัวที่หนึ่งกับที่สามคิดทำร้ายวัวตัวที่สองเเล้วยุเเหย่วัวตัวที่สามในทำนองนั้นเช่นกัน 
ต่อมาวัวทั้งสามจึงเริ่มเเตกคอ ไม่ไว้ใจกันเเละกัน ต่างก็ออกไปหากินกันคนละที่ จนสิงโตมีโอกาสไปดักกินวัวทีละตัวได้อย่างสบาย  



นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  
เมื่อแตกสามัคคี เมื่อนั้นความหายนะมาถึง

แหล่งที่มา  http://www.tinyzone.tv/BedStoryDetail.aspx?ctpostid=168

Sunday, April 5, 2015

เสือโคร่งชราเจ้าปัญญา




วันหนึ่ง ... ที่ป่าลึกแห่งหนึ่ง มีเสือโคร่งตัวใหญ่วัยชราตัวหนึ่ง กำลังนอนอยู่อย่างหมดหวัง เพราะมันไม่มีญาติพี่น้อง หรือมิตรสหายเลย ไม่มีใครเหลียวแล ต้องอยู่อย่างลำบากตามลำพัง มันต้องอดมื้อกินมื้อไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะ ออกไปหาอาหารมาได้

วันต่อมา... เจ้าเสือโคร่งก็นอนอยู่ที่เดิม มีสัตว์หลายตัวที่เคยถูกเจ้าเสือโคร่งหมายเอาชีวิตสมัยยังหนุ่มแน่น พวกสัตว์เหล่านี้ จึงคิดที่จะแก้แค้น

พวกสัตว์ต่างพากันพูดว่า "พวกเรา เจ้าเสือโคร่งชราตัวนี้เราจะเอามาทำอะไรดี เมื่อก่อนเคยไล่กินพวกเราแทบเอาชีวิตไม่รอด มาคราวนี้ทำไมมานอนสิ้นหวัง เช่นนี้ละ" พวกสัตว์ต่างๆไม่ต้องการ เอาชีวิตเสือโคร่งชราอย่างเดียว แต่ต้องการสั่งสอนให้รู้รสชาติของการหนี เพื่อการมีชีวิตอยู่รอดด้วยว่าเป็นอย่างไร

 
พวกสัตว์จึงเอ่ยขึ้นว่า "ท่านเสือโคร่งที่เคารพ วันนี้ท่านไม่ออกไปหาอาหาร ที่ลำธารอย่างก่อนหรือ" 
เสือโคร่งตอบ "ข้าจำศีลไม่อยากเอาชีวิตใครอีก เพราะข้าอายุมากอยากอยู่อย่างสงบไม่ไปทำร้าย หรือฆ่าใครอีก พวกเจ้าก็เหมือนกัน ข้าเห็นแล้วยังไม่อยากจะกินเลย หลีกไปให้พ้นข้าเถอะ"

จากนั้นเสือโคร่งทำเป็นนอนลงเช่นเดิม แต่เสือโคร่งยังมีสติ ที่จะขู่พวกสัตว์ที่คิดทำร้าย มันรู้ดีว่าไม่สามารถเอาเรี่ยวแรงมาต่อสู้ได้แน่ แต่ถ้าจะตายมันจะไม่ยอมตายเพราะน้ำมือสัตว์พวกนี้แน่

เสือโคร่งชรายังคิดต่อไปว่า ถ้าตายไปจริง ๆ ก็แล้วแต่พวกมันจะทำอะไร เพราะไม่ต้องการเสียศักดิ์ศรี เสือโคร่งพยายามทำตัวว่ายังเก่งกล้า ไม่ยอมสยบให้สัตว์อื่น

 
เสือโคร่งกล่าวต่อ "พวกเจ้าหลีกไปให้ไกลข้าด้วย ข้าไม่อยากทำบาป เพราะช่วงที่ข้านอนหลับ เกิดข้าละเมอเผลอไปกินพวกเจ้าเข้า มันจะเป็นบาปกรรมได้" พวกสัตว์เหล่านั้นเมื่อได้ยินเสือโคร่งกล่าว
ก็รีบหนีเพราะกลัว เจ้าเสือโคร่งละเมอ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :
สติปัญญาของคนถึงอายุไขใกล้จะหมด แต่ถ้ารู้จักคิด ใช้มัน ก็ทำให้รอดพ้นจากภัยอันตรายได้

คัดลอกจาก http://kids.mweb.co.th
แก้ไข : นายธวัฒชัย ใบโสด
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต