ในคืนของวันหนึ่งที่ลมมรสุมลูกใหญ่พัดกระหน่ำลงมาตลอดทั้งคืนในป่าลึก
...มันเป็นสิ่ง ที่โหดร้ายอย่างมากเลยทีเดียว...และกว่าลมมรสุมลูกนั้นจะพัดผ่านพ้นไปก็เป็นเวลาเช้าพอดี
พระอาทิตย์แย้มหน้าออกมาส่องแสงให้ความสว่างไสวไปทั่วทั้งป่า
และที่นั่นได้มีมดตัวหนึ่ง ค่อย ๆโผล่หัวของ มันออกมาจากใต้ใบไม้แห้งที่วางปิดอยู่บนปากหลุมใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
เมื่อคืนมันได้ใช้ เป็นที่หลบลมพายุลูกร้ายลูกนั้นอยู่ตลอดทั้งคืน...
" โอ้ย...สุดแสนที่จะน่ากลัวและโหดร้ายเหลือเกิน.." เมื่อมันโผล่หัวของมันออกมาได้
ก็บ่นงึมงำด้วยความโมโห แล้วในขณะนั้นมันได้มองไปเห็นสิ่งหนึ่งเข้า
เจ้าสิ่งนั้นเคลื่อนไหวไป-มาอย่างยากลำบาก มันกระดืบตัวออกมาจากใต้ใบไม้แห้งที่ตกอยู่
เจ้ามดไม่เคยเห็นสิ่งนั้นมาก่อน มันให้เป็นนึกรังเกียจ และความรู้ สึกไม่ ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ในความน่าเกลียดของเจ้าสิ่งที่มันได้เห็น
มันถึงกับพูดแบบดูถูกกับเจ้าสิ่งนั้นไปว่า " นี่เอ็ง...เป็นตัวอะไรฟะ
มือก็ไม่มีขาก็ไม่มี จะเคลื่อนไหว
แต่ละทีนั้นก็แสนจะลำบากน่ารำคาญออกอย่างนั้น...ทำไมเจ้าถึงเป็นแมลงตะกูลที่ น่าเกลียดที่สุดในโลกอย่างนี้ด้วยเล่า??..
"
สิ่งที่มันนึกรังเกียจตัวนั้นคือตัวดักแด้ที่กำลังรอคอยเวลาที่จะลอกคราบอยู่ในอีกไม่ช้าไม่นานแต่
ด้วยเพราะลมพายุเมื่อคืน
มันได้โดนพัดสลัดให้ตกลงมาสู่พื้นดินด้านล่างอย่างโชคร้าย...
" ขอโทษทีเถอะท่าน ที่ เราเป็นสาเหตุ..ทำให้ท่านความรู้สึกไม่ดีเมื่อเห็นสาระรูปอันน่าเกียจนี้ของเรา เราเป็นดักแด้หรือตัวอ่อนของ แมลงชนิดหนึ่ง มือก็ไม่มี ขาก็ไม่มี จึงเดินไม่ได้เหมือนอย่างท่าน..ขอโทษที " แต่เจ้ามดเมื่อได้ฟังดังนั้นกลับทำหน้าเบ้ แล้วพูดว่า " เป็นแมลงเหมือนอย่างข้าด้วย..แย่มากๆ แมลงอย่างเจ้า เกิดมามีกรรม น่าเกียจ เป็นแมลงจะต้องมีขา แล้วต้องเดินได้ปีนต้นไม้ได้ เหมือนอย่างข้านี่สิ ถึงจะเรียกว่าแมลง ไม่เสียชาติ เกิด...ช่างเป็นเรื่องที่น่าอายเสียเหลือเกินถ้าจะให้ข้านับเจ้าว่าเป็นพวกพ้อง แมลงเผ่าพันธุ์เดียวกันกับข้า ฮึ...เสียความรู้สึกเป็นที่สุด " เจ้ามดพูดว่าและดูถูกตัวดักแด้ตัวนั้นให้เสียใจเป็น อย่างมาก...แล้วมันก็เดินหนีหายจากไป จากที่ตรงนั้นทันที...
" ขอโทษทีเถอะท่าน ที่ เราเป็นสาเหตุ..ทำให้ท่านความรู้สึกไม่ดีเมื่อเห็นสาระรูปอันน่าเกียจนี้ของเรา เราเป็นดักแด้หรือตัวอ่อนของ แมลงชนิดหนึ่ง มือก็ไม่มี ขาก็ไม่มี จึงเดินไม่ได้เหมือนอย่างท่าน..ขอโทษที " แต่เจ้ามดเมื่อได้ฟังดังนั้นกลับทำหน้าเบ้ แล้วพูดว่า " เป็นแมลงเหมือนอย่างข้าด้วย..แย่มากๆ แมลงอย่างเจ้า เกิดมามีกรรม น่าเกียจ เป็นแมลงจะต้องมีขา แล้วต้องเดินได้ปีนต้นไม้ได้ เหมือนอย่างข้านี่สิ ถึงจะเรียกว่าแมลง ไม่เสียชาติ เกิด...ช่างเป็นเรื่องที่น่าอายเสียเหลือเกินถ้าจะให้ข้านับเจ้าว่าเป็นพวกพ้อง แมลงเผ่าพันธุ์เดียวกันกับข้า ฮึ...เสียความรู้สึกเป็นที่สุด " เจ้ามดพูดว่าและดูถูกตัวดักแด้ตัวนั้นให้เสียใจเป็น อย่างมาก...แล้วมันก็เดินหนีหายจากไป จากที่ตรงนั้นทันที...
เมื่อเวลาได้ผ่านไปของวันหนึ่ง
หลังจากที่ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก พื้นดินทั่วทั้งป่าก็บรรดาลให้เกิดเป็นโคลน เป็นตมไปทั่วทุกที่ทุกทาง
ในขณะที่เจ้ามดตัวเดิมกำลังเดินลุยโคลนอยู่ด้วยความยากลำบากมัน กว่าจะก้าวขาออกไปแต่ละก้าวนั้นแสนยาก
เพราะโคลนเหลว ๆที่เกาะอยู่ตามแข้งตามขาของมันคอยยึดลำตัวเอาไว้ จนติดเหนียวแน่นเดินได้ลำบากและน่ารำคาญ
มันได้บ่นขึ้นด้วยเสียงอันดังว่า" โอ้ย...โคลน เหลว ๆทั้งนั้นเลย
เดินได้ลำบากเสียจริง ๆ " มันคิดว่าวันนี้ตัวของมันช่างโชคร้าย
เพราะด้วยมันนั้นไม่มีปีก จึงบินหนีไม่ได้นั่นเอง... แล้วในขณะนั้นอยู่ ๆก็มีเสียง
ๆหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านบนเหนือหัวของมันว่า " แมลงที่มีขา
อย่างเดียวไม่มีปีกบินไป ไหนมาไหนหนีภัยไม่ได้อย่างเจ้า
ก็จำเป็นจะต้องได้รับกรรมจำต้องเดินด้วย ความลำบากในที่ ๆทีเป็น โคลนเป็นตมอยู่อย่างนั้น
ช่างน่าอายเสียเหลือเกิน...เกิดมาเป็น แมลงมีแต่ขาอย่างเดียวอย่างเจ้านี่ เสียชื่อเผ่าพันธุ์นะ
เจ้ามดเอ๋ย..ช่างน่าอายเสียเหลือเกินถ้าจะให้ข้านับเจ้า
ว่าเป็นแมลงเผ่าพันธุ์พวกพ้องเดียวกันกับ ข้า...ช่างน่าอายและน่าขำเสียจริง
ๆ..ฮิฮิๆๆ"
เจ้ามดเงยหน้าขึ้นมองตามเสียงที่มันได้ยินทันที..แล้วมันก็ได้เห็นว่ามีผีเสื้อที่สวยงามมาก
ตัวหนึ่งกำลังกะพือปีกที่กว้างใหญ่และสวยงามเหมือนโอ้อวดเยาะเย้ย.. มันพูดว่า " อันนั้น มัน เป็นเรื่องของข้า
ก็ข้าเกิดมาไม่มีปีกเหมือนเจ้านี่ก็จำเป็นที่จะต้องมาเดินลุยโคลนลุยตมอยู่อย่างนี้
แล้วทำไม เจ้าจึงมาว่าดูถูกข้าให้เสียใจและจนเสียหายไปหมดอย่างนั้นด้วยเล่า??
" ผีเสื้อตัวงามจึงตอบออกมาแบบเหยียดหยามว่า " เจ้ามดจอมปากเสียเอ้ย.. ข้าคือตัวดักแด้ตัวที่แกเคยพูดดูถูกเหยียดหยามเอาไว้ในครั้งหนึ่งให้ต้องได้เสียใจและช้ำใจ...เจ้าพอจะนึกออกไหม?ล่ะ ตอนนี้ข้าได้ลอกคราบออกมาแล้วเป็นผีเสื้อมีปีกที่สวยงามและสามารถที่จะบินไปในที่ๆไกลๆได้อย่างสะดวก
สบายและอิสระ...น่าสงสารเจ้านะเกิดมาไม่มีปีก มีแต่ขาก็กรรมมากพออยู่แล้ว
แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะเดิน ได้อย่างอิสระเสียอีกอย่างที่ข้าได้เห็นนี่น่ะ " ว่าทิ้งท้ายแล้ว
ผีเสื้อก็กระพือปีกพร้อมทั้งหัวเราะและบินจากไปในที่สุด...
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
อย่าดูถูกสิ่งที่ตนเห็นว่าต่ำต้อยกว่า..เพราะไม่แน่หรอกนะว่าในอนาคตข้าง
หน้าสิ่งนั้นอาจจะกลับมาหัวเราะเยาะให้ต้องเสียใจก็อาจเป็นไปได้...
แหล่งที่มา http://sukumal.brinkster.net
No comments:
Post a Comment