ลูกแกะตัวหนึ่งพลัดหลงฝูงออกมาถึงชายป่า
เพราะมัวแต่เพลิดเพลินกับการเล็มหญ้าจนลืมระวังตัว
หมาป่าผู้หิวโหยตัวหนึ่งเดินออกมาจากป่าลึก
เพื่อจะไปยังทุ่งกว้างที่มีฝูงแกะจำนวนมากหากินอยู่
ระหว่างทางพบกับลูกแกะหลงทางเข้า
หมาป่าจึงดีใจยิ่งนัก เพราะว่ามันไม่ต้องเสี่ยงเดินทางไปหาฝูงแกะที่มีหมาเลี้ยงแกะและเจ้าของแกะที่คอยระวังแจ
“ช่างดีจริง มีเนื้อเดินเข้ามาถึงปากโดยไม่ต้องเสียเหงื่อ” มันจ้องลูกแกะซึ่งยังคงเล็มหญ้าอยู่อย่างไม่รู้ตัว
เจ้าหมาป่าเห็นดังนั้นมันจึงรีบตรงเข้าไปยัง
ลูกแกะตัวดังกล่าว เพื่อหมายขย้ำกินให้สมอยาก เมื่อหมาป่าเข้ามาใกล้
ลูกแกะก็เห็นเข้า และพยายามจะหนี แต่หมาป่าก็ไล่ต้อนจนจนมุม
ขณะที่หมาป่าจะจับลูกแกะกินเป็นอาหาร
ลูกแกะน้อยเกิดความคิดอย่างหนึ่งขึ้นมา
ลูกแกะจึงร้องวิงวอนต่อหมาป่า
“พี่หมาป่าจ๋า หนูรู้ดีว่าหนูกำลังจะตาย
พี่พอจะใจดีทำสิ่งหนึ่งให้หนูก่อนตายได้ไหมจ๊ะ”
หมาป่าจึงเอ๋ยถาม “แล้วสิ่งสุดท้ายที่เจ้าปรารถนาคืออะไรหล่ะ” ลูกแกะตอบว่า
“ก่อนหนูตาย หนูอยากให้พี่หมาป่าเป่าปี่ให้หนูฟัง” หมาป่าตกลงตามข้อร้องขอและเป่าปี่ให้ลูกแกะฟัง
เมื่อหมาป่าหยุดเป่าปี่
ลูกแกะเอ๋ยขึ้นว่า “โอ้ว! เพลงอะไรกันนี้ช่างไพเราะจับใจเสียจริง ! พี่ช่วยเป่าให้ดังขึ้นอีกหน่อยน่ะจ๊ะ
พี่เป่าปี่ได้ไพเราะกว่าคนเลี้ยงแกะที่เลี้ยงฉันเสียอีก”
หมาป่าหลงไปกับคำสอพลอของลูกแกะ
และเป่าปี่ดังขึ้น ในเวลานั้น คนเลี้ยงแกะและสุนัขเฝ้าแกะที่กำลังมองหาลูกแกะที่หายไปก็ได้ยินเสียงปี่
พวกเขาจึงวิ่งไปตามเสียงและเข้าจับหมาป่าตัวนั้น ลูกแกะรีบวิ่งไปหาฝูงของมันด้วยความความดีใจ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
“ทุกอย่างย่อมมีทางออกหากมีสติ ความตั้งใจในการแก้ไข”
แหล่งที่มา http://www.edufirstschool.com
แหล่งที่มา http://www.edufirstschool.com
No comments:
Post a Comment