Sunday, October 18, 2015

ปาฏิหาริย์กระต่ายผีเสื้อ



 
       กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีกระต่ายน้อยตัวหนึ่งเป็นกระต่ายที่ชอบอ่านหนังสือมากเป็นพิเศษ เจ้ากระต่ายน้อยมักจะหอบหนังสือไปนอนอ่านเล่นในทุ่งดอกไม้ทุกวัน

        กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่โชยมาตามสายลม ทำให้ช่วงเวลาในการอ่านหนังสือของเธอ อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งความสดชื่น

        วันหนึ่งในขณะที่เจ้ากระต่ายตัวน้อยกำลังนอนอ่านหนังสืออยู่เพลิน ๆ มีผีเสื้อแปลกหน้าบินตรงเข้ามาเกาะที่หน้าผากของเจ้ากระต่ายน้อย ราวกับว่ามันอยากจะขออ่านหนังสือด้วย แม้กระต่ายน้อยขนปุยจะเพิ่งเคยพบกับผีเสื้อตัวนี้เป็นครั้งแรก แต่เธอกลับรู้สึกผูกพันกับเจ้าผีเสื้ออย่างประหลาด

          เมื่อเวลาผ่านไปเจ้าผีเสื้อกับกระต่ายก็ค่อย ๆ คุ้นเคยกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ในยามที่กระต่ายน้อยน้ำตาคลอเพราะอ่านหนังสือแสนเศร้า เจ้าผีเสื้อก็จะคอยขยับปีกเพื่อสร้างสายลมเบา ๆ พัดเป่าให้น้ำตาแห้ง กระต่ายน้อยจะมาอ่านหนังสือที่เดิมทุก ๆ วัน ส่วนเจ้าผีเสื้อก็จะคอยบินมาเกาะที่หู หรือหน้าผากของกระต่ายน้อยไม่เคยเว้น กระต่ายน้อยอยากคุยกับเพื่อนปีกสวยของเธอมาก แต่ผีเสื้อกับกระต่ายใช้ภาษาแตกต่างกันด้วยเหตุนี้ กระต่ายน้อยจึงทำได้แค่เพียงใช้นิ้วเล็ก ๆ ของเธอลูบปีกแสนสวยของเจ้าผีเสื้ออย่างแผ่วเบา เพื่อสื่อความรู้สึกภายในใจว่าเธอห่วงใยเจ้าผีเสื้อมากเพียงไหน

          แต่แล้ววันหนึ่ง เจ้ากระต่ายก็ได้ค้นพบกับความจริงที่น่าตระหนก วันนั้นกระต่ายน้อยมารอเจ้าผีเสื้อที่ทุ่งดอกไม้เช่นเดิม ผีเสื้อมาช้ากว่าที่เคย เจ้ากระต่ายจึงอ่นหนังสือที่เตรียมไว้รอไปพลาง ๆ ก่อน กระต่ายน้อยหยิบหนังสือชื่อ "ผีเสื้อ" ออกมาอ่าน เธอยากรู้จักเจ้าฝีเสื้อมากขึ้น ดังนั้นเธอจึงไปยืมหนังสือเล่มนีน้มาจากห้องสมุด กระต่ายน้อยพลิกหนังสืออ่านทีละหน้า ๆ อย่างตั้งใจ และแล้ว... เธอก็ได้เรียนรู้ว่า ผีเสื้อเป็นแมลงปีกสวยที่มีอายุแสนสั้น หลังจากที่ผีเสื้อออกมาทำหน้าที่ของมันได้ไม่นานนัก มันก็จะต้องลากจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ

          กระต่ายน้อยฉุกคิดถึงเพื่อนของเธอขึ้นมาทันที เจ้าผีเสื้อไปอยู่เสียที่ไหน ทำไมจึงยังไม่มาหาเธอนะ? กระต่ายน้อยนึกกังวลจนทำอะไรไม่ถูก เจ้าผีเสื้อมีความสำคัญต่อเธอมาก กระต่ายน้อยไม่อยากให้เจ้าผีเสื้อจากเธอไปชั่วนิรันดร์

          ในขณะนั้นเอง กระต่ายน้อยก็เหลือบไปเห็นเจ้าผีเสื้อ เพื่อนของเธอค่อย ๆ บินตรงเข้ามาหาเธอด้วยท่าทางที่ดูอ่อนแรงจนน่าสงสาร แม้ว่าเจ้าผีเสื้อจะรู้ดีว่า วาระสุดท้ายของตนเองกำลังจะย่างกรายมาถึง แต่มันก็พยายามรวบรวมพลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ เพื่อที่จะกลับมาพบกับกระต่ายน้อยอีกสักครั้ง

          เจ้าผีเสื้อค่อย ๆ โรยตัวลงเกาะที่หนังสือซึ่งอยู่ตรงหน้าของเจ้ากระต่ายน้อย มันมองตาเจ้ากระต่ายเหมือนจะบอกลา จากนั้นมันก็ค่อยๆ หลับตาลงด้วยความอ่อนระโหยโรยแรง

          กระต่ายน้อยรู้ดีว่า วันนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้พบกับเจ้าผีเสื้อ กระต่ายน้อย เศร้าใจมาก และก่อนที่เจ้าผีเสื้อจะจากเธอไป กระต่ายน้อยก็ตัดสินใจก้มลงจูบที่ปีกของเจ้าผีเสื้อ ด้วยความอาลัยรัก

          ทันทีที่ริมฝีปากของกระต่ายน้อยสัมผัสกับปีกของเจ้าผีเสื้อ แสงสว่างจ้าหลากสีก็เปล่งประกายออกมาจนเจ้ากระต่ายรู้สึกแสบตาไปหมด และเมื่อกระต่ายน้อยลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เธอก็มองเห็นเจ้าผีเสื้อค่อย ๆ กลายร่างเป็นกระต่ายหนุ่มที่มีขนสีเทา แลดูสง่างามที่สุดเท่าที่เธอเคยพบ

          กระต่ายหนุ่มส่งยิ้มหวานให้เจ้ากระต่ายสาวตัวน้อยทันที จากนั้นกระต่ายหนุ่มก็เล่าให้กระต่ายน้อยฟังว่าจริง ๆ แล้วเขาเป็นเพียงกระต่ายตัวหนึ่ง ที่เผลอไปกินแครอทในสวนหลังบ้านของแม่มดใจร้ายเข้า ด้วยเหตุนี้ เขาจึงถูกแม่มดสาปให้กลายเป็นผีเสื้อ ซึ่งวิธีเดียวที่จะทำให้เขาพ้นจากคำสาปได้ก็คือ เขาจะต้องได้รับการจุมพิตจากสุภาพสตรีที่รักเขาจากส่วนลึกของหัวใจ

          กระต่ายน้อยหน้าแดงก่ำเหมือนลูกตำลึงสุก เธอรู้สึกเขินอายที่กระต่ายหนุ่มล่วงรู้ว่าเธอรักเขามากเพียงไหน เมื่อกระต่ายหนุ่มพ้นคำสาปจากการเป็นผีเสื้อ เขาก็พร้อมจะเอ่ยความในใจให้กระต่ายสาวตัวน้อยได้รับรู้

          กระต่ายหนุ่มสารภาพว่า เขาหลงรักกระต่ายสาวตั้งแต่แรกพบ ดั้งนั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะเข้าไปใกล้ชิดกับกระต่ายสาวทันทีที่ได้เห็น กระต่ายหนุ่มคุกเข่าลงเพื่อขอแต่งงานกับกระต่ายสาว ซึ่งมันก็ไม่มีเหตุผลใดที่กระต่ายสาวจะกล่าวคำปฏิเสธ และหลังจากนั้นไม่นาน ครอบครัวของเจ้ากระต่ายทั้งสอง ก็อุ่นหนาฝาคั่งไปด้วยลูกกระต่ายตัวน้อย ๆ นับร้อย ๆ ตัว


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : karn.tv
http://www.iammomsociety.com

Friday, September 18, 2015

หมาป่ากับลูกแกะ




วันหนึ่งลูกแกะน้อยกำลังเดินอย่างเพลิดเพลิน
มันเดินไปเรื่อย ๆ จนมาถึงลำธารแห่งหนึ่ง
แหมวันนี้อากาศดีจริง ๆ เลย แอบหนีแม่มาเดินเล่น
ป่านนี้แม่คงจะตามหาแกะน้อยใหญ่แล้วหละ
เดี๋ยวค่อยกลับบ้านเย็น ๆ ก็แล้วกัน
แต่ตอนนี้หิวน้ำจังเลย ขณะที่เจ้าแกะน้อยกำลังก้มกินน้ำอยู่นั้น

บังเอิญมีหมาป่าตัวนึงเดินเข้ามาเจอพอดี เจ้าหมาป่านิสัยไม่ดี
และมันกำลังหิวมากซะด้วยสิ พอมันเห็นลูกแกะตัวเล็ก ๆ เข้า
ก็อยากจะจับลูกแกะกินเป็นอาหาร มันจึงคิดอุบาย

นี่เจ้าแกะน้อยเจ้ามีความผิดมากเลยรู้หรือป่าว
คุณหมาป่า ข้าผิดเรื่องอะไรเหรอ
แกะน้อยก็กินน้ำอยู่ดี ๆ ยังไม่ได้ทำอะไรท่านเลย
ก็เจ้ากินน้ำอยู่ และข้าก็กินน้ำอยู่ตรงนี้
เจ้าทำให้น้ำในลำธารขุ่นข้นไปหมด ข้าดื่มเข้าไปไม่ได้
ดังนั้นเจ้าต้องถูกลงโทษ

แต่ว่าคุณหมาป่าดูดี ๆ ก่อนสิ ท่านหนะกินน้ำที่ต้นน้ำนะ
และอย่างงี้แกะน้อยจะทำน้ำขุ่นข้นได้ยังไง
ข้าบอกว่าเจ้าผิด เจ้าก็ต้องผิด
ฉันไม่ผิดจะให้ยอมรับผิดได้ยังไง คุณหมาป่าไม่มีเหตุผลเอาซะเลย
เจ้าหมาป่าโกรธจัด จึงหาอุบายอื่นอีก

 
เมื่อปีกลายเจ้าเป็นผู้เล่านิทานกล่าวร้ายข้าเอาไว้
เจ้าเป็นผู้มีความผิดต้องถูกลงโทษ
ฉันไปกล่าวร้ายท่านได้ยังไง ฉันเพิ่งเกิดมาไม่เมื่อกี่เดือนนี้เอง
งั้นคงจะเป็นพี่เจ้า มาให้ข้ากินซะดี ๆ
คุณหมาป่าคงจำผิดแล้ว ข้าเป็นลูกคนเดียวไม่มีพี่น้อง
โอ้ยข้าไม่สนใจและ แต่ตอนนี้ข้าหิวจนตาลายไปหมดแล้ว
เจ้าต้องตกเป็นอาหารของข้า

ว่าแล้วเจ้าหมาป่าอันธพาลก็กระโจนใส่แกะน้อยเพื่อจับกินเป็นอาหาร
เจ้าแกะน้อยวิ่งหนีและร้องเรียกแม่ลั่นป่า
ทันใดนั้นสิงโตเจ้าป่าก็กระโดดมาบังแกะน้อยไว้

หยุดเดี๋ยวนี้นะเจ้าหมาป่า อย่าทำแกะน้อยไม่มีทางสู้ตัวนี้นะ
ถ้าเจ้าหมาป่าไม่ยอมไป ข้าสิงโตนี่แหละจะจับเจ้ากินเอง
เจ้าหมาป่ากลัวจึงจากไป ฝ่ายเจ้าแกะน้อยก็ร้องไห้ไม่หยุด
เงียบได้แล้วเจ้าหมาป่ามันวิ่งหนีไปแล้ว เจ้าปลอดภัยแล้วหละ

ข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน บ้านเจ้าอยู่ที่ไหน
แกะน้อยหนีแม่ออกมาเดินเล่น นี่คือโทษที่เจ้าไม่บอกผู้ใหญ่ก่อน
แกะน้อยจะไม่หนีไปเที่ยวอีกแล้วจ้า ขอบคุณท่านมาก
และแล้วสิงโตก็พาแกะน้อยไปส่งที่บ้าน

หลังจากนั้นแกะน้อยไม่หนีออกไปไหนไกล ๆ อีกเลย
และมันก็จะขออนุญาตผู้ใหญ่ทุกครั้งก่อน

แหล่งที่มา  นิทานก่อนนอน, http://baby.kapook.com

Sunday, April 26, 2015

สุนัขจิ้งจอกในดงหนาม






สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งชอบไปขโมยลูกไก่เเละเเม่ไก่ของชาวบ้านมากินเป็นประจำ วันหนึ่งพวกชาวบ้านให้พรานดักซุ่มรอเล่นงานสุนัขจิ้งจอก เเต่สุนัขจิ้งจอกเห็นเข้าก่อนจึงรีบวิ่งหนีออกจากหมู่บ้านโดยเร็ว 

พรานยังคงไล่ล่าตามมาติดๆ สุนัขจิ้งจอกจึงกระโดดเข้าไปซ่อนตัวในดงหนามที่ชายป่า หนามอันเเหลมคมทิ่มตำสุนัขจิ้งจอกจนเจ็บปวดไปทั้งตัว 

มันตัดพ้อดงหนามว่า "ทำไมต้องทำร้ายเราด้วย ในเมื่อเราไม่เคยทำร้ายเจ้า" 

ดงหนามจึงตอบว่า ลูกไก่เเละเเม่ไก่ก็ไม่เคยทำร้ายสุนัขจิ้งจอกเช่นกัน เเละการที่กระโดดเข้ามาก็ทำให้กิ่งก้านของดงหนามหักไปไม่น้อย 

 
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า 

ก่อนจะตำหนิว่าใคร ควรย้อนดูตนเสียก่อนว่าเคยทำผิดเช่นนั้นมาก่อนหรือไม่


ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

Monday, April 20, 2015

ต้นโอ๊กผู้ยิ่งใหญ่




ในเย็นวันหนึ่ง มีพายุใหญ่พัดกระหน่ำจนต้นอ้อนั้นพากันเอนลู่ไปตามกระเเสลม 

ต้นโอ๊กใหญ่เห็นเช่นนั้นจึงถามต้นอ้อว่า "ไฉนเจ้าจึงไม่ยืนนิ่งต้านเเรงลมเล่า เจ้าช่างอ่อนแอเหลือเกิน" 

ต้นอ้อตอบอย่างถ่อมตนว่า "ข้านั้นเป็นต้นไม้เล็กๆ ไม่มีเเรงกำลังมากเช่นท่าน ลมพัดไปทางไหนก็ต้องเอนไปทางนั้น" 
 
ต้นโอ๊กได้ฟังก็หัวเราะดังลั่นอย่างภาคภูมิใจในความยิ่งใหญ่ของตน 

เเต่ทว่าคืนนั้น พายุยังคงโหมกระหน่ำรุนเเรงจนต้นโอ๊กหักโค่นลง เหลือเเต่ต้นอ้อที่ยังมีชีวิตอยู่ เเละเมื่อพายุสงบลง ต้นอ้อก็หยัดยืนตรงได้อีกครั้ง 


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า 

โอนอ่อนย่อมอยู่ได้นานกว่าเเข็งกระด้าง 


ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

Thursday, April 9, 2015

วัวสามสหาย



ครั้งหนึ่งยังมีวัวสามตัวได้ตกลงสัญญาเป็นเพื่อนตายต่อกัน ดังนั้นวัวทั้งสามจึงมักไปไหนด้วยกันเสมอเเละคอยระวังภัยให้เเก่กันด้วย  


สิงโตที่จ้องหาทางจะกินวัวอยู่ จึงเเอบไปกระซิบกับวัวตัวที่หนึ่งว่า วัวตัวที่สองกับที่สามนั้นนินทาด่าว่าลับหลังวัวตัวที่หนึ่ง เเล้วสิงโตก็ไปยุเเหย่ตัวที่สองว่า วัวตัวที่หนึ่งกับที่สามคิดทำร้ายวัวตัวที่สองเเล้วยุเเหย่วัวตัวที่สามในทำนองนั้นเช่นกัน 
ต่อมาวัวทั้งสามจึงเริ่มเเตกคอ ไม่ไว้ใจกันเเละกัน ต่างก็ออกไปหากินกันคนละที่ จนสิงโตมีโอกาสไปดักกินวัวทีละตัวได้อย่างสบาย  



นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  
เมื่อแตกสามัคคี เมื่อนั้นความหายนะมาถึง

แหล่งที่มา  http://www.tinyzone.tv/BedStoryDetail.aspx?ctpostid=168