กาลครั้งหนึ่ง
กลางป่าซึ่งเขียวขจีด้วยแมกไม้นานาพันธุ์
มีทั้งไม้ดอกและไม้ผล นอกจากนี้ยังมีเหวลึกและมีแม่น้ำสายใหญ่
ไหลเชี่ยวกรากตลอดเวลา ในป่าแห่งนั้น มีสัตว์ ๔ สหาย อาศัยอยู่ด้วยกัน คือ กระต่าย
๑ ตัว ลิง ๑ ตัว สุนัขจิ้งจอก ๑ ตัว และนาก ๑ ตัว
สัตว์ทั้ง ๔ ตัวนี้
ตั้งอยู่ในศีลธรรม และอยู่ด้วยกันด้วยความสมานฉันท์ มีกระต่ายเป็นหัวหน้า ทุกเย็นสัตว์ทั้งหมดจะไปประชุมกัน
ฟังโอวาทจากกระต่าย และนำมาปฏิบัติตามอย่างสม่ำเสมอ
คืนวันหนึ่ง
ระหว่างที่กำลังให้โอวาทแก่สัตว์ทั้งสามอยู่ กระต่ายได้มองขึ้นไปยังท้องฟ้า
ท้องฟ้ายามราตรีกำลังสว่างนวลด้วยแสงจันทร์
กระต่ายรู้ว่า วันพรุ่งนี้จะเป็นวันอุโบสถศีล คือวันพระจันทร์เต็มดวง
กระต่ายจึงกล่าวเตือนแก่เพื่อนสัตว์ทั้งสามว่า
“วันพรุ่งนี้
พวกท่านจงพากันรักษาศีล และให้ทานเถิด เพราะจะมีอานิสงส์อย่างสูง
พวกท่านจงเตรียมอาหารไว้เพื่อเป็นทานแก่คนอื่นๆ เถิด”
สัตว์ทั้งสามพากันรับคำด้วยความยินดี
จากนั้นก็กลับไปยังที่อยู่ของตน
พอรุ่งเช้า...
พราน
เบ็ดคนหนึ่งได้มาตกปลาที่ริมฝั่งน้ำใกล้ๆ บริเวณที่พวกสัตว์ทั้ง ๔ อาศัยอยู่
เขาตกได้ปลาตะเพียน ๗ ตัว เมื่อเขาปรารถนาจะย้ายที่ตกปลาไปยังที่แห่งใหม่
เขาจึงขุดทรายให้เป็นหลุม แล้วเอาปลาตะเพียนทั้งเจ็ดตัวซ่อนไว้ แล้วเกลี่ยทรายกลบ
ทำเครื่องหมายให้ตนเองจำที่นั้นได้ แล้วย้ายไปยังที่แห่งใหม่
นากออกมาอาหารในที่แห่งนั้น คุณหนูๆ
ควรทราบไว้ว่า นากมีจมูกที่สามารถสูดดมหากลิ่นปลาได้ดีมาก
คงเหมือนจมูกมดนั่นแหละ นากจึงรู้ว่าบริเวณแห่งนั้นมีปลาอย่างแน่นอน มันทำจมูก
ฟืดๆ สูดดมตามผืนทรายไม่กี่ครั้ง มันก็รู้ว่า มีปลาซ่อนอยู่ใต้ผืนทราย...
มันคุ้ยผืนทรายไม่กี่ครั้ง
ปลาตะเพียนทั้งเจ็ดตัวก็อวดเกล็ดขาวๆ แก่สายตาของมัน มันร้องอุทานด้วยความตื่นเต้น
“โอ้โห...ปลาตะเพียนตัวสวยๆ
ตัวอ้วนๆ ตัวสดๆ เพิ่งตายใหม่ๆ หมาดๆ น่าอร่อยดีนักเชียว
แต่เอ...มีใครเป็นเจ้าของปลาพวกนี้รึเปล่าหนอ”
นาก ตัวนั้นแม้มีความยินดี
ที่มันค้นหาอาหารเจอ แต่มันเป็นนากที่ยึดมั่นในโอวาทของกระต่ายอย่างมั่นคง
มันจึงไม่ฆ่าสัตว์เพื่อเป็นอาหาร และไม่ต้องการขโมยปลาของคนอื่นด้วย
มันจึงส่งเสียงร้องถามไปว่า
“มีใครเป็นเจ้าของปลาตะเพียนเหล่านี้รึเปล่า”
เงียบ...ไม่มีเสียงตอบ
เพราะนายพรานเบ็ดเดินเลยไปไกลแล้ว
“มีใครเป็นเจ้าของปลาตะเพียนทั้งเจ็ดตัวนี้หรือเปล่า” มันร้องถามเป็นครั้งที่สอง
เงียบ...มีแต่เสียงน้ำไหล
และเสียงใบไม้ต้องลม
“ฉันขอถามอีกครั้งว่า
มีใครเป็นเจ้าของปลาตะเพียนทั้งเจ็ดตัวนี้หรือไม่”
มันร้องถามเป็นครั้งที่สาม
เงียบ...ไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของปลาตะเพียนเหล่านั้น นากยืนมองปลาตะเพียนอยู่ครู่ใหญ่
มันจึงตัดสินใจคาบปลาทั้งเจ็ดตัวกลับไปยังที่อยู่ของตน จากนั้นจึงนอนรักษาศีลด้วยความสบายใจ
ฝ่ายเจ้าลิงก็ตื่นแต่เช้า
เข้าไปยังป่าลึก เก็บมะม่วงสุกมาเต็มหอบ ก่อนนอนรักษาศีลอยู่ในที่อยู่ของตัวเอง ส่วนกระต่ายเอาแต่รักษาศีลอย่างเคร่งครัด
เลยไม่ได้ออกไปหาอาหารเตรียมไว้ แต่กระต่ายไม่ได้มีความกังวลว่าจะไม่มีอะไรเป็นทาน...
กระต่าย
มีอะไรตุนเอาไว้อย่างนั้นหรือ...เปล่าหรอกคุณหนูๆ กระต่ายกินแต่หญ้า
หญ้ามีอยู่ทั่วทุกหนแห่งในป่า กระต่ายจึงไม่มีความจำเป็นต้องกักตุนอะไรไว้เลย
กระต่ายไม่มีความวิตก เพราะกระต่ายได้ตั้งปณิธานอันยิ่งใหญ่ไว้แล้ว
คุณหนูคงอยากรู้ใช่ไหมว่า กระต่ายจะทำอย่างไร...
กระต่ายตัดสินใจแล้ว
จึงนอนรักษาศีลและภาวนาต่อไปอย่างสงบ
นิทานธรรม//
รักษ์ มนัญญา
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต