Tuesday, December 17, 2024

พระอาทิตย์กับรุ้งกินน้ำ



กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วเมื่อโลกยังเพิ่งถือกำเนิด ทุกสรรพสิ่งล้วนแต่มีความสุขและทุกอย่างก็มีความสมบูรณ์แบบเป็นอย่างยิ่ง ยกเว้นรุ้งกินน้ำ 


รุ้งกินน้ำนั้นไม่เคยมีความสุขเลยเพราะเธอติดอยู่บนก้อนเมฆและท้องฟ้าตลอดเวลา จึงไม่มีใครเคยสังเกตเห็นเธอเลย อยู่มาวันหนึ่งเธอก็คิดได้ว่า ที่ไม่มีใครสังเกตเห็นเธอนั้นเพราะตัวเธอมีเพียงสีดำและสีขาวเท่านั้น 


และแล้ววันหนึ่ง รุ้งกินน้ำจึงได้ตัดสินใจเดินทางไปหาพระอาทิตย์


หลังจากการเดินทางอันยาวนาน รุ้งกินน้ำก็ได้เดินทางไปถึงพระอาทิตย์ และเมื่อพระอาทิตย์ได้เห็นรุ้งกินน้ำ พระอาทิตย์จึงร้องถามรุ้งกินน้ำว่า 


“สวัสดี มีอะไรให้เราช่วยไหม”


“เอ่อ…” รุ้งกินน้ำพูดขึ้นอย่างลังเล “ฉันไม่แน่ใจว่าท่านจะช่วยระบายสีลงบนตัวของฉันได้ไหม”


พระอาทิตย์ตอบรุ้งกินน้ำไปว่า “ดีเลย เธอจะได้มีสีสันบนตัวกับเขาบ้าง”


พระอาทิตย์จึงได้ยื่นมือออกไปที่รุ้งกินน้ำ และรุ้งกินน้ำก็จับมือกับพระอาทิตย์ จากนั้นสีดำและสีขาวของรุ้งกินน้ำก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นสีสันที่สวยงาม: เขียว แดง เหลือง ส้ม น้ำเงิน และแทบทุกสีบนโลกใบนี้ 


รุ้งกินน้ำ รู้สึกมีความสุขมากและเธอเปล่งประกายอย่างสดใสและคนทั้งโลกได้มองเห็นเธอแล้ว ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผู้คนบนโลกก็จะได้เห็นรุ้งกินน้ำเปล่งประกายสวยงามหลังฝนตก


เครดิตภาพ:

https://www.pinterest.com/pin/10766486605669604/


Saturday, September 14, 2024

กระต่ายตื่นตูม



กาลครั้งหนึ่ง มีกระต่ายน้อยตัวหนึ่งกำลังนอนหลับฝันหวานสบายๆ อยู่ใต้ต้นตาลในป่าใหญ่ ในขณะที่เจ้ากระต่ายน้อยนอนหลับเพลินๆ อยู่นั้น ได้เกิดลมพายุใหญ่ขึ้น ซึ่งได้ทำให้ลูกตาลบนต้นหล่นตูมลงมาบนใบตาลที่กองสุมอยู่บนพื้นดินเสียงดังสนั่น ลูกตาลเกือบทับเจ้ากระต่ายน้อย ทำให้เจ้ากระต่ายน้อยตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ ไม่ทันได้ตริตรอง คิดว่าฟ้าถล่ม จึงลุกขึ้นวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว เพราะกลัวความตาย


บรรดาสัตว์ต่างๆ ในป่า เช่น เสือ ช้าง กวาง  เห็นเจ้ากระต่ายน้อยวิ่งมา จึงถามเจ้ากระต่ายน้อยไปว่า


"ท่านวิ่งหนีอะไรมา"

เจ้ากระต่ายน้อย วิ่งพลาง บอกพลางว่า "ฟ้าถล่ม"


สัตว์เหล่านั้นได้ฟังเจ้ากระต่ายน้อย ไม่ทันได้ตริตรอง คิดว่าฟ้าถล่มจริงๆ ก็พากันวิ่งตามเจ้ากระต่ายน้อยไป บ้างก็หกล้ม ขาหัก แข้งหัก ชนต้นไม้ ตกเหวตายบ้างก็มี ส่วนสัตว์ที่เหลืออยู่ก็พากันวิ่งหนีต่อไปอีก



จนมาพบราชสีห์ตัวหนึ่ง ซึ่งเป็นสัตว์เจ้าปัญญา เห็นสัตว์ต่างๆ วิ่งมาไม่หยุดหย่อน จึงร้องถามไปว่า...


“เหตุใดพวกท่านจึงพากันวิ่งจนชนกันล้มตายขนาดนี้”


สัตว์เหล่านั้นกลัวอำนาจราชสีห์ก็ต้องหยุด และเล่าความที่เจ้ากระต่ายน้อยแจ้งแก่พวกสัตว์เหล่านั้นให้ราชสีห์ฟัง ราชสีห์นั้นก็เข้าใจทันทีว่า สัตว์เหล่านั้นคงจะตื่นอะไรมาสักอย่างหนึ่ง จึงถามต่อไปว่า 


“ฟ้าถล่มที่ตรงไหน จงพาเราไปดูสักที”


ถึงแม้ว่า สัตว์เหล่านั้นกลัวตายจนตัวสั่น แต่ก็ไม่กล้าขัดอำนาจของราชสีห์ จึงต้องพาราชสีห์ไป เมื่อไปถึงใต้ต้นตาลที่เจ้ากระต่ายน้อยนอน ราชสีห์ก็พิเคราะห์ดู เห็นลูกตาลหล่นอยู่ที่โคนต้น ก็เข้าใจว่า ผลตาลนั้นหล่นลงมา แล้วเจ้ากระต่ายน้อยก็คิดว่าฟ้าถล่ม เลยตกใจวิ่งหนีไป บรรดาสัตว์ทั้งหลายที่ไม่มีปัญญาตริตรอง ก็พากันหลงเชื่อเจ้ากระต่ายน้อยวิ่งเตลิดไปจนชนกัน แข้ง ขา คอ หัก ตกเหวตาย 


บรรดาสัตว์ทั้งหลายที่พากันได้รับทุกขเวทนาในครั้งนี้ ก็เพราะเป็นผู้ขลาดเขลาปัญญา หาตริตรองมิได้ 


คติจากนิทานเรื่องนี้ :  เตือนใจให้คนเรารู้จักใช้สติปัญญาไตร่ตรอง ไม่ให้ตื่นตกใจต่อเรื่องที่ได้ยินได้ฟัง และเชื่อคนง่าย โดยไม่คิดใคร่ครวญถึงต้นสายปลายเหตุของเรื่องนั้นๆ ให้ชัดเจนและรอบคอบก่อน



 

Tuesday, July 30, 2024

ลิงน้อยแสนซนกับรังมดแดง



ในป่าแห่งหนึ่ง มีลิงตัวน้อยที่แสนซนตัวหนึ่ง ชอบปีนป่ายต้นไม้เล่นไปเรื่อยๆ อยู่มาวันหนึ่ง เจ้าลิงน้อยแสนซนตัวนี้ ปีนขี้นไปบนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ซึ่งมีรังมดแดงรังใหญ่อยู่บนกิ่งไม้


ด้วยความแสนซน เจ้าลิงน้อยก็กระโดดเข้าไปดึงรังมดแดงเล่น 


เมื่อมดแดงเห็นเช่นนั้น จึงบอกกับเจ้าลิงน้อยแสนซนว่า 


“อย่าดึงรังของเรา”


แต่เจ้าลิงน้อยแสนซน ไม่เชื่อฟัง แถมยังคงดึงรังมดแดงเล่นต่อไป


มดแดงกับพวกพ้องจึงพากันออกจากรังมารุมกัดเจ้าลิงน้อยแสนซน 


เจ้าลิงน้อยแสนซนรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก จึงรีบหนีไป


และทำให้มันตั้งใจว่าจะไม่ดึงรังมดแดงเล่นอีกเลยนับจากนี้ไป


cr. pic.

https://www.pinterest.com/pin/429671620703452000/